บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2017

โภชนทาน

รูปภาพ
                            ๗. โภชนทานสูตร              [๓๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้โภชนะเป็นทาน ชื่อว่าให้ฐานะ ๕ อย่างแก่ปฏิคาหก ๕ อย่างเป็นไฉน คือ ให้อายุ ๑ ให้วรรณะ ๑ ให้สุข ๑ให้กำลัง ๑ ให้ปฏิภาณ ๑ ครั้นให้อายุแล้วย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งอายุทั้งที่เป็นทิพย์ ทั้งที่เป็นมนุษย์ ครั้นให้วรรณะแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งวรรณะทั้งที่เป็นทิพย์ ทั้งที่เป็นมนุษย์ ครั้นให้สุขแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งสุขทั้งที่เป็นทิพย์ทั้งที่เป็น มนุษย์ ครั้นให้กำลังแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งกำลังทั้งที่เป็นทิพย์ทั้งที่เป็นมนุษย์ ครั้นให้ปฏิภาณแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งปฏิภาณทั้งที่เป็นทิพย์ทั้งที่เป็นมนุษย์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้โภชนะเป็นทานชื่อว่าให้ฐานะ ๕ อย่างนี้แล ฯ     ปราชญ์ผู้มีปัญญา ให้อายุย่อมได้อายุ ให้กำลัง ย่อมได้ กำลัง ให้วรรณะย่อมได้วรรณะ ให้ปฏิภาณย่อมได้ปฏิภาณ    ให้สุขย่อมได้สุข ครั้นให้อายุ กำลัง วรรณะ สุข และ  ปฏิภาณแล้วจะเกิดในที่ใดๆ ย่อมเป็นผู้ม...

ทานสูตร

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต   ๗. ทานสูตร [๓๐๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล อุบาสิกาชื่อนันทมารดา ชาวเมืองเวฬุกัณฑกะ ถวายทักษิณาทานอันประกอบด้วยองค์ ๖ ประการ ในภิกษุสงฆ์มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นประมุข พระผู้มีพระภาคได้ทรงเห็นอุบาสิกาชื่อนันทมารดา ชาวเมืองเวฬุกัณ ฑกะถวายทักษิณาทาน อันประกอบด้วยองค์ ๖ ประการ ในภิกษุสงฆ์มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เป็นประมุข ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ แล้วตรัสกะภิกษุ ทั้งหลายว่า .."ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสิกาชื่อนันทมารดาชาวเมืองเวฬุกัณ ฑกะนั้น ถวายทักษิณาทานอันประกอบด้วยองค์ ๖ ประการ ในภิกษุสงฆ์มีพระสารีบุตรและ พระโมคคัลลานะเป็นประมุข ก็ทักษิณาทานอันประกอบด้วยองค์ ๖ ประการเป็นอย่างไร .."ดูกรภิกษุทั้งหลาย องค์ ๓ ของทายก องค์ ๓ ของปฏิคาหก องค์ ๓ ของทายกเป็นไฉน .."ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทายกก่อนให้ทาน เป็นผู้ดีใจ ๑ กำลัง ให้ทานอยู่ย่อมยังจิตให้เลื่อมใส ๑ ครั้นให้ทานแล้วย่อมปลื้มใจ ๑ นี...

บุญกิริยาวัตถุ 10

รูปภาพ
บุญกิริยาวัตถุ 10   หมายถึง การทำความดี ๑๐ อย่าง เป็นบุญ เป็นกุศล ตามหลักคำสอนของ พระสัมมา สัมพุทธเจ้า คือ ๑.ทานมัย คือ:บุญสำเร็จจากการให้วัตถุสิ่งของ เพื่อสงเคราะห์ หรือบูชาแก่ผู้อื่น ๒.ศีลมัย   คือ:บุญสำเร็จจากการรักษาศีล งดเว้นจากทุจริต หรือประพฤติสุจริตทางกาย  วาจา ๓.ภาวนามัย  คือ:บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส (สมถภาวนา) และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง(วิปัสสนาภาวนา) ๔.อปจายนมัย คือ: บุญสำเร็จจากการอ่อนน้อม ถ่อมตน ๕.เวยยาวัจจมัย คือ:บุญสำเร็จจากการขวนขวาย ช่วยเหลือ บำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น ๖.ปัตติทานมัย คือ:บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว ๗.ปัตตานุโมทนามัย คือ: บุญสำเร็จจากการยินดี ในบุญกุศล ของผู้อื่นได้ทำดีแล้ว ๘.ธัมมัสสวนมัย  คือ:บุญสำเร็จจากการฟังธรรม ๙.ธัมมเทสนามัย คือ:บุญสำเร็จจากการแสดงธรรม ๑๐.ทิฏฐุชุกรรม คือ:การทำความเห็นให้ตรง ถูกต้องตามความเป็นจริง