ทานสูตร

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
  ๗. ทานสูตร
   [๓๐๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ 
ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี 
ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล อุบาสิกาชื่อนันทมารดา 
ชาวเมืองเวฬุกัณฑกะ ถวายทักษิณาทานอันประกอบด้วยองค์ ๖
ประการ ในภิกษุสงฆ์มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นประมุข 
พระผู้มีพระภาคได้ทรงเห็นอุบาสิกาชื่อนันทมารดา ชาวเมืองเวฬุกัณ
ฑกะถวายทักษิณาทาน อันประกอบด้วยองค์ ๖ ประการ 
ในภิกษุสงฆ์มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เป็นประมุข 
ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ แล้วตรัสกะภิกษุ
ทั้งหลายว่า 
.."ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสิกาชื่อนันทมารดาชาวเมืองเวฬุกัณ
ฑกะนั้น ถวายทักษิณาทานอันประกอบด้วยองค์ ๖ ประการ 
ในภิกษุสงฆ์มีพระสารีบุตรและ พระโมคคัลลานะเป็นประมุข 
ก็ทักษิณาทานอันประกอบด้วยองค์ ๖ ประการเป็นอย่างไร 
.."ดูกรภิกษุทั้งหลาย องค์ ๓ ของทายก องค์ ๓ ของปฏิคาหก 
องค์ ๓ ของทายกเป็นไฉน 
.."ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทายกก่อนให้ทาน เป็นผู้ดีใจ ๑ กำลัง
ให้ทานอยู่ย่อมยังจิตให้เลื่อมใส ๑ ครั้นให้ทานแล้วย่อมปลื้มใจ 
๑ นี้องค์ ๓ ของทายก องค์ ๓ ของปฏิคาหกเป็นไฉน 
.."ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปฏิคาหกในศาสนานี้ เป็นผู้ปราศจากราคะ 
หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดราคะ ๑ เป็นผู้ปราศจากโทสะ หรือ
ปฏิบัติเพื่อกำจัดโทสะ ๑ เป็นผู้ปราศจากโมหะ หรือปฏิบัติเพื่อกำจัด
โมหะ ๑ นี้องค์ ๓ ของปฏิคาหก องค์ ๓ ของทายก องค์ ๓ 
ของปฏิคาหก ย่อมมีด้วยประการดังนี้ 
.."ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทักษิณาทานที่ประกอบด้วยองค์ ๖ ประการ
ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้แล การถือประมาณบุญแห่งทักษิณาทานที่
ประกอบด้วยองค์ ๖ ประการอย่างนี้ว่า ห้วงบุญห้วงกุศลมีประมาณเท่านี้
นำสุขมาให้มีอารมณ์เลิศ มีสุขเป็นผล เป็นไปเพื่อสวรรค์ ย่อมเป็นไปเพื่อ
สิ่งน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุข ดังนี้ 
ไม่ใช่ทำได้ง่าย โดยที่แท้บุญแห่งทักษิณาทานนั้น ย่อมถึงการนับว่า 
เป็นห้วงบุญห้วงกุศลที่จะนับไม่ได้ประมาณไม่ได้ เป็นกองบุญใหญ่ทีเดียว 
เปรียบเหมือนการถือเอาประมาณ แห่งน้ำในมหาสมุทรว่า เท่านี้อาฬหกะ 
เท่านี้ร้อยอาฬหกะ เท่านี้พันอาฬหกะ หรือเท่านี้แสนอาฬหกะ ไม่ใช่ทำ
ได้ง่าย โดยที่แท้ น้ำในมหาสมุทรย่อมถึงการ
นับว่า เป็นห้วงน้ำที่จะนับไม่ได้ ประมาณไม่ได้ เป็นห้วงน้ำใหญ่ทีเดียวฉะนั้น ฯ
   ทายกก่อนแต่จะให้ทานเป็นผู้ดีใจ กำลังให้ทานอยู่ย่อมยังจิต
   ให้เลื่อมใส ครั้นให้ทานแล้วย่อมปลื้มใจ นี้เป็นยัญสมบัติ
   ปฏิคาหกผู้สำรวมประพฤติพรหมจรรย์ทั้งหลาย คือ ท่านผู้
   ปราศจากราคะ ปราศจากโทสะ ปราศจากโมหะ ไม่มีอาสวะ
   ย่อมเป็นเขตถึงพร้อมแห่งยัญ ทายกต้อนรับปฏิคาหกด้วย
   ตนเอง ถวายทานด้วยมือตนเอง ยัญนั้นย่อมมีผลมากเพราะตน
   (ทายกผู้ให้ทาน) และเพราะผู้อื่น (ปฏิคาหก) ทายกผู้มี
   ปัญญา มีศรัทธา เป็นบัณฑิต มีใจพ้นจากความตระหนี่
   ครั้นบำเพ็ญทานอย่างนี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกที่เป็นสุขไม่มี
   ความเบียดเบียน ฯ
                จบสูตรที่ ๗
  ที่มา..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บุญทันตา

โภชนทาน